วันนอร์" รุดเยี่ยม-ให้กำลังใจครอบครัว 3 ผู้เสียชีวิต ถูกทหารยิง
"วันนอร์" รุดเยี่ยม-ให้กำลังใจครอบครัว 3 ผู้เสียชีวิต บนเขาตะเว ที่ถูกทหารยิงเพราะความเข้าใจผิด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จี้ รัฐอำนวยความยุติธรรมอย่างชัดเจน
วันที่ 30 ธ.ค. ที่บ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายซูการ์โน มะทา ส.ส.เขต 2 ยะลา นายสมมุต เบ็ญจลักษณ์ ส.ส. เขต 4 ปัตตานี นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส. เขต 3 นราธิวาส และทีมบริหารพรรคประชาชาติ เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ยิงชาวบ้านเสียชีวิตทั้ง 3 ราย บนเขาตะเว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งนำกระเช้าเข้าเยี่ยม และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับญาติ และทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย
โดยจุดแรก ได้ลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 134/2 บ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของนายฮาพีซี มะดาโอะ อายุ 24 ปี โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้มอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 134/4 บ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของนายบูดีมัน มะลี อายุ 26 ปี โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้มอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จากนั้น คณะได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 175/2 บ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของนายมะนาซี สะมะแอ อายุ 27 ปี มอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเช่นกัน จากกรณีเจ้าหน้าที่ยิงทั้ง 3 คน เพราะความเข้าใจผิด
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวถึงการเดินทางในครั้งนี้ว่า เดินทางมาให้กำลังใจกับครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ และเพื่อไปสอบถามข้อเท็จจริงในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เราจะเรียกร้องทุกฝ่ายต้องพูดความจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ และสอบสวนสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยแถลงตามความเป็นจริง เพราะหลีกเลี่ยงความเป็นจริงไปไม่พ้น ถ้าหากว่าพูดความจริงกับประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียน ซึ่งประชาชนก็พอให้อภัยได้ แต่ถ้าไปบิดเบือนข้อเท็จจริงและพยายามใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ จะเป็นการกระทำที่ซ้ำเติม และให้พี่น้องประชาชนไม่ให้อภัย ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือรัฐบาล รัฐบาลต้องทบทวนหาความจริงให้ได้ และต้องดูแลเยียวยาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะมีระเบียบกฎเกณฑ์ซึ่งได้ใช้มาแล้ว และต้องแถลงให้พี่น้องประชาชนที่กำลังรอความจริงจากรัฐบาลด้วย
ในส่วนของคดีนั้น ในที่เกิดเหตุมีคนรู้เห็นหลายคนที่เห็นความไม่ยุติธรรม ต้องแจ้งข้อเท็จจริงให้ชาวบ้านได้ทราบเรื่อยๆ ซึ่งความจริงแล้วการใช้กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาจจะขึ้นศาลทหาร แต่สิ่งที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องคือ เมื่อเหตุการณ์จะสงบแล้วบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว อยากให้เกิดความเท่าเทียมกันในระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าใครทำผิดก็ควรจะขึ้นกระบวนการยุติธรรมตามปกติไม่ใช่ในภาวะสงครามจะขึ้นศาลทหาร เพราะศาลทหารจะตัดสินอย่างไรก็ตาม ประชาชนก็คิดว่าช่วยกันเองอยู่ดี ซึ่งคิดว่าไม่เป็นผลดีกับฝ่ายราชการ ทำไมประชาชนทำผิดต้องขึ้นศาลยุติธรรม แต่ทหารทำผิดทำไมต้องขึ้นศาลทหาร ซึ่งประชาชนไม่สบายใจ ในการนี้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาพิเศษ เพื่อศึกษาการแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ซึ่งจะดำเนินการตอนต่อไป